10 กรกฎาคม 2553

ทริปท่องเที่ยวทุ่งบัวตอง


ทุ่งบัวตองดอยหัวแม่คำ จ.แม่ฮ่องสอน





ดอกบัวตองบานเพียงปีละครั้ง โดยจะเริ่มบานในช่วง ต้นเดือน พ.ย. เป็นต้นไป
และจะเริ่มบานเต็มที่สวยงามในช่วงกลางเดือน พ.ย. ในนี้จะมีการจัดงานเทศกาล
ดอยบัวตองบาน ณ ดอยหัวแม่คำ ซึ่งจะคึกคักเป็นพิเศษซึ่งชาวเขา
จะแต่งชุดประจำเผ่าที่สวยงาม รวมทั้งมีการแสดงของ เผ่าต่างๆ ด้วย
หากพ้นช่วงเทศกาลไปแล้วจะค่อนข้างเงียบเล็กน้อย
ประมาณปลายเดือน พ.ย.ดอกบัวตองก็จะเริ่มโรยรา






ทัวร์ทุ่งบัวตอง ปาย ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน (พักรีสอร์ท 3 วัน 2คืน)

Promotion เดือน กรกฎาคม 2553 ...มั่นใจไปชัวร์

พิเศษสุด ! ลดทันทีท่านละ 500 บาท

เมื่อโอนเงินจองเต็มจำนวน* ก่อนวันที่ 31 ก.ค 2553









Double Enjoy ภูมิใจเสนอโปรแกรมท่องเที่ยว
สุดแสนจะโรแมนติก ทุ่งบัวตอง ปาย ปางอุ๋ง

แม่ฮ่องสอน บนเส้นทาง 1,864 โค้ง จ.แม่ฮ่องสอน 3 วัน 2 คืน

“หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า ป่าเขียวขจี ผู้คนดีประเพณีงาม ลือนามถิ่นบัวตอง”


วนอุทยานทุ่งบัวตอง

ตั้งอยู่บนภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,600 เมตร
มีทิวทัศน์สวยงาม มองเห็นภูเขาสลับซับซ้อนคล้ายคลื่นในทะเล ในบริเวณพื้นที่ของ
วนอุทยานฯจะมีป่าธรรมชาติและป่าสนปลูกขึ้นสลับกัน
ลักษณะภูมิอากาศมิอากาศเย็นตลอดปีฤดูหนาวอากาศหนาวมาก
ตอนเช้าจะมีหมอกทึบ ตอนกลางวันอากาศเย็น เพราะมีลมพัดตลอดวัน






วนอุทยานดอยหัวแม่คำ

ซึ่งเป็นที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ที่ความสูงประมาณ 1300 เมตร
ยู่ห่างจากหมู่บ้านหัวแม่คำไปประมาณ 1.6 ก.ม.
เป็นจุดชมวิวสูงสุด ของดอยหัวแม่คำ
จุดชมวิวที่มีทิวทัศน์สวยงามเป็นวิวภูเขาสูงสลับซับซ้อนเรียงรายกัน
สวยงามมากในช่วงเช้าสามารถเห็นทะเลหมอกไปปกคลุมอยู่ทั่วภูเขา


Program Tour

กรุงเทพ - อ.ฮอด

20.30 น.

คณะพร้อมกัน ณ จุดนัดหมาย ปั๊มคาลเท็กซ์ วิภาวดีขาออก
โดยมีทีมงานบรกิารในเรื่องกระเป๋าสัมภาระออกเดินทางสู่ อ. ฮอด
จ. เชียงใหม่ ด้วยรถตู้ปรับอากาศ VIP พร้อมบริการอาหารว่างและเครื่องดื่ม


ออบหลวง - สวนสนบ่อแก้ว - ถ้ำแก้วโกมล -
ทุ่งบัวตอง ดอยแม่คำอู- พระธาตุดอยกองมู

05.00 น.

ถึง อ.ฮอด บริการ อาหารเช้า จากนั้นไป ออบหลวง ชมแกรนด์แคนยอนเมืองไทยประติมากรรม
ทางธรรมชาติ เขาหินจูบกัน และเดินทางไปยัง ถ้ำโกมล อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน
ชมความงามของผลึกแร่แคลไซท์ที่ได้ชื่อว่า เป็นถ้ำน้ำแข็งที่สวยที่สุดในประเทศไทย

12.30 น.

เดินทางไป อ.ขุนยวม จากนั้นเดินทางไปดอยแม่อูคอ ชมทุ่งบัวตอง
จากทุ่งบัวตองพาไปนมัสการพระธาตุดอยกองมูก่อนจะเข้าที่พัก







19.00 น.

บริการอาหารเย็น และต่อด้วยการชมความงามของ วัดจองคำ วัดจองกลาง-
ในยามค่ำคืน และพักผ่อน ช๊อปปิ้งตามอัธยาศัย


ปางอุ๋ง - บ้านรักไทย - ภูโคลน - ถ้ำลอด - จุดชมวิวปางมะผ้า - ปาย


04.30 น.

Check Out ออกจากรีสอร์ทแต่เช้ามืดเพื่อมุ่งหน้าสู่
โครงการพระราชดำริปางตองหรือรู้จักกันในนามปางอุ๋ง







08.30 น. เตรียมออกเดินทางสู่ บ้านรักไทย บริการอาหารเช้าแบบยูนาน

09.30 น.

พาไปชมบ้านดิน และวิถีชีวิตของชาวจีนฮ่อ ชิมชารสเลิศ
เดินทางต่อไปที่ ภูโคลน เป็นแหล่งบ่อโคลนธรรมชาติ 1 ใน 3
ของโลก อุดมด้วยแร่ธาตุ ทดลองพอกโคลน

13.30 น.

บริการอาหารหลางวัน จากนั้นเดินทางไปถ้ำลอด
ซึ่งอยู่ในความดูแลของศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่า
ออกจากถ้ำลอด มุ่งหน้าสู่ อ. ปาย ถึงอ.ปาย Check in เข้าที่พัก

19.00 น.

บริการอาหารเย็น จากนั้นอิสระในการท่องราตรี
เดินเล่นในตลาดปาย ยามค่ำคืนกลับที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

ตลาดปาย- วัดน้ำฮู- บ้านสันติชล- Coffee In Love-
สะพานประวัติศาสตร์-กาดทุ่งเกวียน- กทม

06.00 น. ตื่นเช้า รับอากาศบริสุทธิ์ กับกาแฟถ้วยโปรด

07.00 น. บริการอาหารเช้า







08.00 น.

เตรียมตัว Check Out แล้วพาไปเดินเล่นที่ ตลาดเมืองปายยามเช้า ซื้อของที่ระลึก

08.30 น.

พาไปนมัสการพระอุ่นเมือง ที่วัดน้ำฮู จากนั้นพาไปชม ศูนย์วัฒนธรรม
จีนยูนาน บ้านสันติชลชมบ้านดิน ชิมชา และโล้ชิงช้า

11.00 น.

ถ่ายรูปกับ กาแฟร้านดัง Coffee In Love และบริการอาหารกลางวัน
หลังอาหารกลางวัน พาชมสะพานประวัติศาสตร์

14.00 น. ออกเดินทางไปสู่ กาดทุ่งเกวียน จ.ลำปาง

18.00 น.

บริการอาหารเย็น หลังอาหาร ออกเดินทางกลับ กทม ถึงกรุงเทพฯ
โดยสวัสดิภาพประมาณตี 2 พร้อมกับความประทับใจ



สำหรับทริปที่เดินทางไปโดยรถส่วนตัว


รถยนต์ เส้นทางเข้าสู่ทุ่งบัวตองมี 2 เส้นทาง คือ ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108
ตรงหลักกิโลเมตรที่ 201 แยกเข้าทางหลวงหมายเลข1263
ไปประมาณ 12 กิโลเมตร แล้วแยกเข้าทางสายบ้านนางิ้ว-บ้านหัวฮะ
ไปอีก 14 กิโลเมตร จากอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
ตามทางหลวงหมายเลข 1263 (แม่แจ่ม-ขุนยวม) ถึงทางแยกเข้าบ้านนางิ้ว-
บ้านหัวฮะ ระยะทาง 76 กิโลเมตร แล้วแยกเข้าไปอีก 14 กิโลเมตร

สถานที่จอดรถ สำหรับผู้ที่ไปรถส่วนตัว

จุดพักผ่อนของผู้เดินทาง

บรรยากาศยามเย็น

คำแนะนำ

ในการท่องเที่ยว

ในช่วงต้นเดือน พฤศจิกายน ถึงกลางเดือน ธ้นวาคม ทุกๆ ปี บริเวณดอยแม่อูคอจะมี

ดอกบัวตองบาน

เหลืองอร่าม

ทั่วบริเวณขุนเขา อำเภอขุนยวมจะจัดเทศกาลให้นักท่องเที่ยว

ขึ้นไปชมตั้งแต่ วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม โดยทางอำเภอ จะจัดเตรียมเต้นท์ที่พัก

ให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะค้างแรม บริเวณดอยแม่อูคอและยังมีอาหาร เครื่องดื่ม บริการ

นักท่องเที่ยวด้วย ติดต่อจองเต้นท์พักบนดอยแม่อูคอ ณ ที่ว่าการ อ.ขุนยวม โทร. (053) 691 104



ร า ย ล ะ เ อี ย ด ท ริ ป ที่ เ ปิ ด จ อ ง


  • 04-07 พ.ย. 2553 *5700 บาท
  • 11-14 พ.ย. 2553 *5900 บาท
  • 19-22 พ.ย. 2553 (ลอยกระทงที่ปาย) ออกเดินทางคืนวันศุกร์ *5900 บาท
  • 25-28 พ.ย. 2553 *5900 บาท
  • 03-06 ธ.ค. 2553 (วันพ่อ) *6200 บาท
  • 09-12 ธ.ค. 2553 (วันรัฐธรรมนูญ) *6200 บาท
  • 16-19 ธ.ค. 2553 เที่ยวกะเหรี่ยงคอยาวแทน ทุ่งบัวตอง *5900 บาท
  • 24-27 ธ.ค. 2553 (วันคริสต์มาส) เที่ยวกะเหรี่ยงคอยาวแทน ทุ่งบัวตอง *5900 บาท
  • 30 ธ.ค-02 ม.ค. 2554 (วันปีใหม่) เที่ยวกะเหรี่ยงคอยาวแทน ทุ่งบัวตอง *6500 บาท


พาไปเที่ยวกุ้ยหลินเมืองไทย


เ ขื่ อ น รั ช ช ป ร ะ ภ า






ประวัติความเป็นมา

เขื่อนรัชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลาน ตั้งอยู่ที่อำเภอตาขุน จ. สุราษฎร์ธานี
สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ตำบล เขาพัง อำเภอตาขุน

เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียวสูง 94 เมตร ความยาวสันเขื่อน 761 เมตร

และมีเขื่อนปิดกั้นช่องเขาขาดอีก 5 แห่ง มีความจุ 5,638.8 ลูกบาศก์เมตร

ติดตั้งเครื่องผลิดไฟฟ้า เครื่องละ 80,000 กิโลวัตถ์ จำนวน 3 เครื่อง

เขื่อนรัชประภา เป็นเขื่อนอนเกประสงค์ ใช้ประโยชน์ทางด้านการชลประทาน

และการผลิดกระแสไฟฟ้า เริ่มดำเนินการก่อสร้าง เมื่อ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2525 และเสร็จ

ในเดือนกันยายน 2530 เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามให้ใหม่ว่า เขื่อนรัชประภาซึ่งแต่เดิม

ชื่อ เขื่อนเชี่ยวหลาน และมีความหมายว่า แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ได้เสด็จพระราชดำเนินเิดเขื่อนรัชประภา และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เมื่อวันพุธที่ 30 กันยายน 2530


ประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวเขื่อน อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก ในอ่างเก็บน้ำเหนือ

เขื่อนรัชประภาจะมีแพที่พักไว้บริการ เป็นแพของทางอุทยาน 3 แพ แต่ละแพอยู่ในตำแหน่ง

ที่มีทัศนียภาพสวยงาม และยังมีแพของเอกชนอีก 3 แพ กิจกรรมที่น่าสนใจระหว่างที่พักอยู่ที่แพ

คือ ชมวิว เล่นน้ำ พายเรือแคนู ตกปลา และอีกกิจกรรมที่น่าสนใจคือการไปเที่ยวถ้ำซึ่งจต้องเดินป่า

เข้าไปท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน ระหว่างทางจะได้สัมผัสความสมบูรณ์ของป่าดิบภาคใต้เดินไม่ไกล

พอได้บรรยากาศการเดินป่าสัมผัสธรรมชาติ และอีกกิจกรรมหนึ่งคือ การนั่งเรือชมวิว

วิวในอ่างเก็บน้ำสวยเกินบรรยายไม่มีใครเคยบอกสักคนว่า ไม่สวย การเที่ยวดูทัศนียภาพในอ่างเก็บ

น้ำเหนือเขื่อนสวยงามมากจนได้ชื่อว่า กุ้ยหลินเมืองไทยบริเวณเกาะแก่งในเขื่อน ยังมีแพพักไว้

บริการ ในแต่ละปีสามารถดึงดูดดนักท่องเที่ยวปีละกว่า 70,000 คนสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่

ที่ขับเรือนำเที่ยว และการค้าขายบริเวณสันเขื่อน


แ ผ น ที่ ก า ร เ ดิ น ท า ง





เขื่อนรัชประภาตั้งอยู่ที่อำเภอตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ห่างจากรุงเทพฯ 698 กิโลเมตร

การเดินทางโดนรถยนต์ ใช้เส้นทางสายเพชรเกษมซึ่งมีอยู่สายเดียวมุ่งตรงสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เมื่อถึงสี่แยกที่จะเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ ให้เลี้ยงขวามาตามเส้นทางหมายเลข 401 มุ่งสู่อำเภอบ้านตา-

ขุน ขับตรงไปอีกประมาณ 67 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาเข้าเขื่อนรัชประภา มีป้ายเขื่อนรัชประภา

บอกชัดเจน เลี้ยงขวาไปตามป้ายอีก 12 กิโลเมตร ขับตามที่ป้ายบอก จนกระทั่งถึงสันเขื่อน ก็จะถึงจุดชมวิว



ความประทับใจที่ัตัวดิฉันเคยสัมผัส

ครั้งหนึ่งที่ดิฉันได้เคยสัมผัสธรรมชาติจากเขื่อนรัชประภา ซึ่งในทุกๆปี ทางโรงเรียนจะมีกิจกรรม

ทัศนศึกษาให้กับเด็กนักเรียนในแต่ละชั้น สมัยนั้นดิฉันเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 5 ได้ไปทัศนศึกษา

ที่เขื่อนรัชประภา ตื่นเต้นมาก แต่มันไม่ได้เป็นครั้งแรกที่ดิฉันเคยไป เคยไปครั้งแรกกับครอบครัว

แต่ครั้งนี้มีเพื่อนๆไปด้วย จึงสนุกมากยิ่งขึ้น เมื่อไปถึง ก็ถ่ายรูป กับเพือนด้วยความสนุกสนาน

และหลังจากนั้น ก็ทำกิจกรรมนันทนาการ ที่มีพวกรุ่นพี่รออยู่ในแต่ละซุ้ม หลังจากนั้นก็แยกย้าย

กันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย ฉันโน้มตัวลงนั่ง และมองวิวจากศาลาชมวิว มันสวยมาก

สวยจนบรรยายยาก ต้องลองไปสัมผัสเองดูนะค่ะ ความรู้สึกมันสบาย ใจสงบ

และหลังจากที่พักผ่อนตามอัธยาศัยเสร็จ ก็มีพี่วิทยากร จะพาเราไปเดินป่า เพื่อชมธรรมชาติ ตอนเริ่มเดินขึ้น

เนินเขา เมื่อยขามากๆ แต่พอเดินไปได้สักระยะหนึ่ง เราก็ลืมความเมื่อยไปโดยปริยาย เพราะเรามัว

เพลิดเพลินกับธรรมชาติรอบข้าง ฉันจำได้ว่าเดินป่า เป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร หลังจากที่เดินป่าเสร็จ ตัว

ฉันทรุดลงนั่งด้วยความเหนื่อยล้า และหลังจากนั้น คุณครูก็พาไปล่องเรือเพื่อชม กุ้ยหลินเมืองไทย ไปสัมผัส

กับธรรมชาติที่แสนสวย ล่องเรือไปได้สักพัก ดิฉันมองเห็นนกเงือก ซึ่งหาดูได้ยากมากตามธรรมชาติ จึงชี้ให้

เพื่อนๆดู ทุกคนดูด้วยความตื่นเต้น รวมถึงดิฉันด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขื่อนแห่งนี้ เป็นเขื่อนที่อุดมสมบูรณ์

ห่างจากมุมที่นกเงือกอาศัยอยู่ไม่ไกล ก็จะเห็นกุ้ยหลินเมืองไทย ดังที่รอคอย สมตามคำล่ำลือ ว่าเป็นของดี

ของเขื่อนแห่งนี้ หลังจากล่องแพจนถึงจุดบริการนักท่องเที่ยว คุณครูอนุญาติให้นักเรียนลงเล่นน้ำได้ เมื่อถึง

เวลากลับทุกคนต่างอ่อนเพลีย อ่อนล้า แต่สำหรับดิฉัน มันเป็นความเหนื่อยล้าที่มีความสุขที่สุด



บ ร ร ย า ก า ศ ข อ ง เ ขื่ อ น รั ช ช ป ร ะ ภ า


นั่งเรือชมวิว



บรรยากาศโดยรอบ



สถานที่เล่นน้ำ




กุ้ยหลินเมืองไทย ^^





อย่าลืมแวะเที่ยว ชมความสวยของเขื่อนรัชประภา

ที่คุณจะได้สัมผัสถึงความสวยงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง