การคมนาคมขนส่ง (Transportations)
คือ กระบวนการเคลื่อนย้ายคน สัตว์ สิ่งของ จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง โดยอาศัยสื่อกลางต่างๆ
ภายใต้เงื่อนไขและราคาที่ได้ตกลงกันไว
การคมนาคมขนส่ง มีดังต่อไปนี้
* เป็นกิจกรรมการขนส่งจากที่หนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง
* การขนส่งต้องอาศัยอุปกรณ์ ( ยานพาหนะ)
* เป็นความต้องการของผู้ที่ต้องการใช้บริการ
สถานี (Terminal)
สถานที่ให้บริการพาหนะต่างๆ ตามความต้องการเฉพาะด้าน นอกจากนี้ยังมีหน้าที่
อำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนพาหนะหรือด้านการจราจร
พัฒนาการขนส่งทางบก
ในระยะแรกใช้แรงงานคนลากรถสองล้อไปบนถนน ต่อมาในยุคอียิปต์ใช้สัตว์ลากรถ 6 ล้อ
และพัฒนาเป็นรถลาก 4 ล้อ พร้อมกับสร้างถนนเชื่อมต่อระหว่างเมื่อ จนกระทั่งในปี ค.ศ.1480 มี
การประดิษฐ์รถม้าโดยสาร (Stage coach) ขึ้นในประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรก
ศตวรรษที่ 18 ได้มีการประดิษฐ์เครื่องจักรไอน้ำ ทำให้เกิดการขนส่งทางรถไฟส่งผลให้ผู้คน
เดินทางเป็นจำนวนมาก และให้มีการเปิดบริการเป็นครั้งแรกในอังกฤษ ใน ค.ศ.1825
ใน ค.ศ.1920 ได้ประดิษฐ์คิดค้นรถยนต์ และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะใน
ประเทศ สหรัฐอเมริกา
พัฒนาการขนส่งทางน้ำ (เก่าแก่ที่สุดในโลก)
มีการพัฒนาจากแพที่ทำด้วยขอนไม้ ต่อมานำต้นไม้ทั้งต้นมาขุด เรียกว่า เรือขุด
และเรือหนังสัตว์ (Coracles) เป็นการนำหนังสัตว์มาขึงโครงไม้ทำเป็นเรือ
ค.ศ.1772 มีการขนส่งผู้โดยสารทางเรือมากขึ้น เป็นที่นิยมมากของนักท่องเที่ยวที่ชอบเดิน
ทางในลักษณะการพจญภัย และจึงเป็นที่มาของเรือยอดซ์
ค.ศ.1815 ได้มีบริการท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญอังกฤษชื่อ เรือซีลอน ของบริษัท Peninsula
Oriental Steam วิ่งในเส้นทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเมืองท่าเรือในอิตาลี กรีซ อียิปต์ และอาฟริกา
ตะวันตก
ค.ศ.1819 มีเรือที่สามารถเดินข้ามมหาสมุทรเป็นครั้งแรกได้ ชื่อว่า
เรือกลไฟ
“Savannah”
เป็นเรือที่แล่นระหว่างเมือง savannah รัฐจอร์เจีย กับเมือง Liverpool ในประเทศอังกฤษ
ใช้เวลาในการเดิน
ทาง
29 วัน
เรือสำราญที่สมบูรณ์แบบที่สุด มีชื่อว่า Princess Victoria Louis
หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เศรษฐกิจตกต่ำ ธุรกิจเรือสำราญได้รับความกระทบกระเทือนอย่าง
รุนแรง
ต่อมาได้มีการเผยแพร่ขยายไปจากโลกตะวันตกไปยังในภูมิภาคเอเชีย เห็นได้ว่าได้มีการตั้งบริษัท
Star Cruise เกิดขึ้น ในปี ค.ศ. 1993
ในประเทศไทย ใช้เรือขนาดเล็กขนส่งในระยะทางใกล้ๆ และต่อมาก็พัฒนาเป็นสำเภาใหญ่ ได้รับรูปแบบ
จากประเทศจีน ชาวจีนจึงเข้ามาตั้งธุรกิจในประเทศไทยเป็นครั้งแรก จึงได้มีการตั้งบริษัทขึ้นเพื่อรับรองธุรกิจ
เรือสำราญของคนไทยขึ้น 2 บริษัท ได้แก่ บริษัทซีทรานควีน
กับ บริษัทสยามครูซ จำกัด โดยเรือ
Seatran
Queen
พัฒนาการขนส่งทางอากาศ
ค.ศ.1903 พี่น้องตระกูล Wright ได้ประดิษฐ์คิดค้นเครื่องบินเป็นครั้งแรก และได้มีการนำออกมาใช้
ใน
สงครามโลกครั้งที่ 1
ค.ศ.1919 เกิดธุรกิจการบินทางด้านธุรกิจเป็นครั้งแรกในโลก ระหว่างเมืองลอนดอนและปารีส
ประเทศยุโรปได้ให้การสนับสนุนประเทศ ในการจัดตั้งบริษัทสายการบินแห่งชาติขึ้นแต่เที่ยวบินที่ให้
บริการการขนส่งผู้โดยสารเป็นครั้งแรกคือ ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยบินระหว่างบอสตัน กับ นิวยอร์ก ต่อ
มา ค.ศ.1927 ได้เริ่มจ้างพนักงานบนเครื่องบินขึ้น
ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงริเริ่มดำเนินการบินการพาณิชย์ โดยใช้ชื่อบริษัทว่า
บริษัทเดินอากาศและได้เข้าร่วมลงทุนกับ SAS เพื่อก่อตั้งสายการบินสู่ต่างประเทศชื่อ
บริษัทการบินไทย
จำกัด
ธุรกิจการคมนาคมขนส่ง
ที่
ใช้เพื่อการท่องเที่ยวแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
คือ ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ
1. ธุรกิจขนส่งทางบก นิยมมากโดยเฉพาะการเดินทางทางรถยนต์ ซึ่งการเดินทางทางรถไฟ
ยังไม่เป็นที่นิยมกันมากนัก
รถไฟในประเทศยุโรปที่ได้ชื่อว่าทันสมัย สะอาดรวดเร็ว เป็นที่นิยมในการเดินทางท่องเที่ยว ได้แก่
* รถไฟ TGV ของฝรั่งเศส
* รถไฟ Euro star ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลฝรั่งเศสและอังกฤษ
* รถไฟ X2000 Metroliner ของประเทศสวีเดน
* รถไฟ Shinkansen (Bullet Train) หรือหัวกระสุน เป็นของประเทศญี่ปุ่น
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคล เป็นนิยมมากที่สุด เนื่องจาก ประหยัด สะดวก รวดเร็ว และ
คล่องตัว
ธุรกิจการเช่ารถจึง เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ชอบเดินทางโดยรถยนต์ และ
รถตู้เพื่อนันทนาการ (Recreational Car) ก็จัดว่าเป็นการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถเช่า ทำให้เกิดการ
เติบโต
ของธุรกิจให้เช่าที่จอดรถ ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีเครื่องอำนวยความสะดวก
2. ธุรกิจการขนส่งทางน้ำ แบ่งออกหลายประเภทดังนี้
2.1 เรือเดินทะเล เป็นเรือที่ขนส่งจากท่าหนึ่งไปยังอีกท่าหนึ่ง
2.2 เรือสำราญ ขนส่งผู้เดินทางได้ประมาณ 650-850 คน
2.3 เรือข้ามฟาก เหมาะสำหรับเดินทางระยะสั้น
3. ธุรกิจขนส่งทางอากาศ
ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน ได้แก่ เครื่องบินโบอิ้ง เครื่องบินแอร์บัส เครื่องบินดีซี 10 บิน
ระหว่างเมืองต่อเมือง
การเดินทางท่องเที่ยวทางอากาศ แบ่งออกเป็น
3.1 การบินลักษณะบินประจำ (Scheduled air service) เป็นการบินระหว่างเมืองต่อเมือง
โดยมีตารางบินที่แน่นอน แบ่งออกเป็น 2 ข้อย่อย
3.1.1 เที่ยวบินประจำภายในประเทศ
3.1.2 เที่ยวบินประจำระหว่างประเทศ
3.2 การบินลักษณะเที่ยวบินไม่ประจำ เป็นการบินที่เสริมในตาราง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น